ถ้าคุณกำลังมืดแปดด้าน ! ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต เพราะตกงานนานเกินไปแล้ว ไม่มีงานทำนานเกินไปแล้ว และร่อนใบสมัครไปหลายที่แล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้งานทำสักที!! ไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณจะว่างงาน ตกงาน ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราขอแนะนำ 6 สิ่งที่ต้องทำที่จะช่วยฮีลใจและทำให้เรามูฟออนต่อได้ มีดังนี้
1. พักผ่อนเพื่อเริ่มต้นใหม่
จู่ ๆ ก็ตกงานกะทันหัน ต้องทำอย่างไร ? ก่อนอื่นต้องเริ่มดึงสติกลับมาสู่โลกความเป็นจริง ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจว่า “ชีวิตของคนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง” ขนาดสตีฟ จ็อบส์ ผู้บุกเบิก Apple ยังถูกบีบให้ออกจากบริษัทที่เขาก่อตั้ง …
ดังนั้น อย่ามัวแต่เสียใจเลยค่ะ “สู้ เราต้องสู้” อย่าปล่อยให้ความรู้สึกของเราจม หรือดำดิ่งกับห้วงอารมณ์ความเสียใจนานเกิน เพราะอาจจะทำให้เรากลายเป็นโรคซึมเศร้าได้นะ
คิดเสียว่า นี่เป็นเวลาพักผ่อนของเรา เพื่อเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกันเนาะ 🙂
และมนุษย์เงินเดือนที่จ่ายประกันสังคมก็สามารถขอเงินชดเชยสิทธิว่างงานได้ อ่านวิธีการขอเพิ่มเติมได้นะจ๊ะ ตกงาน ถูกเลิกจ้าง ลาออก ต้องขอเงินประกันสังคมยังไง ?
2. พัฒนาทักษะจำเป็นกับสายงาน หรือสอบหาใบรับรองความสามารถ
ระหว่างมองหางานใหม่ ๆ ควรหาเวลาพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อให้เราโดดเด่นมากยิ่งขึ้นค่ะ เดี๋ยวนี้มีสอบใบรับรองความสามารถผ่านอินเทอร์เน็ตให้เราทดสอบมากมาย หรือจะสอบวัดระดับภาษาไว้ก็ช่วยได้
หรือจะเรียนรู้ ทักษะ Business Skills ที่ต้องมีในปี 2020 เช่น ทักษะการบริหารโครงการ (Project Management), ทักษะการสื่อสาร (Communications) และทักษะบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources) ซึ่งเป็นทักษะที่ AI ยังไม่เทพเท่ามนุษย์เรา
สรุปว่า ทำงานสายไหนจงพัฒนาตัวเองในสายงานนั้น อย่าเพิ่งยอมแพ้หมดแรงเสียก่อนละ
3. ไปงานสัมมนาพบปะสังคมใหม่ ๆ เผื่อได้งานทำ
งานสัมมนาหาความรู้ใหม่ ๆ หรือการออกงานพบปะผู้คนก็ช่วยได้นะ (แต่ต้องระวังงานสัมมนาที่อาจจะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ด้วยล่ะ) บางทีเราอาจจะได้พบกัลยาณมิตรใหม่ที่ชวนไปทำงานด้วยก็ได้
หากไม่รู้เริ่มต้นเข้าสังคมใหม่ ๆ ยังไง แนะนำ
- ลองเล่นแอป Inviter App เป็นแอปพลิเคชันหาเพื่อนที่มีความชอบแบบเดียวกันซึ่งได้ไอเดียมาจากหนัง App War มีให้โหลดทั้ง iOS และ Android
- หรือจะลุยเปิดเว็บไซต์ eventpop.me ที่มีหมวดหมู่ให้เลือก เช่น Business, Education, Sale & Marketing, Technology เลือกให้ตรงใจเลย แต่บางอีเวนท์อาจจะต้องเปย์ค่าเข้านะจ้ะ
- และเว็บไซต์ ticketmelon ก็โอเคอยู่เหมือนกันค่ะ มีให้เลือกหลายหลายเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอีเวนท์เสียเงินหลักพันล่ะจ้า
4. ปัดฝุ่นทำ Resume และ CV ให้ไฉไลกว่าเดิม
หลังจากพักผ่อนชาร์จแบตปลุกพลังใจ การปัดฝุ่นให้ประวัติเราดีงามเป็นสิ่งต้องทำ เตรียมภาพโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือปรับให้เหมาะกับสายอาชีพของเราเลยค่ะ
ถามว่าระหว่าง Resume และ CV ต่างกันยังไง ?
- Resume = เป็นประวัติส่วนตัวที่ไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเชิงลึก แต่ต้องเน้นความเกี่ยวข้องกับการสมัครงานนั้น ๆ
- CV (Curriculum Vitae เป็นภาษาละตินแปลว่า เรื่องราวชีวิตของคุณ) = เป็นเอกสารประวัติที่มี 2 หน้ากระดาษขึ้นไป ใส่ได้ทั้งหมดเลยว่าคุณคือใคร ? มีประวัติแบบไหน ? จะทำให้เห็นเชิงลึกมากกว่า
หากไม่เซียนด้านการออกแบบแนะนำลองใช้ Canva ดูสิ เพราะใช้ง่ายมีแพลตฟอร์มให้เลือกทำ Resume และ CV สวย ๆ หรือถ้ายังไม่ชัวร์ เพราะกลัวว่า Canva จะไว้ใจได้จริงไหม ? จะลองทำความรู้จักใครคือเจ้าของ Canva.com เว็บไซต์ออกแบบขั้นเทพ ?? ก่อนทดลองใช้ก็ได้นะคะ
5. สมัคร linkedin.com ดูสิ
เปิดโซเชียลมีเดียช่วยหางานเลยค่ะ แนะนำ linkedin.com เพราะว่าเป็นศูนย์รวมงานชั้นนำเอาไว้เยอะมาก และก็มีข้อมูลน่าอ่านให้เราเลือกอีกเพียบ เอาเป็นว่า ลองสร้างโปรไฟล์ดูแล้วจะรู้ว่า โลกใบนี้กว้างใหญ่ขนาดไหน
6. หาอาชีพเสริมรองานทำ
ไม่เลือกงานไม่ยากจน หางานทำง่าย ๆ ช่วยเสริมรายได้ เช่น ขายของออนไลน์, ชอบขับรถก็ลองขับแกร็บหารายได้เสริม, ลองเขียนบทความรีวิวหรือคอนเทนต์กับ 4 เว็บเขียนบทความได้เงิน & ได้ประสบการณ์ หรือจะมองหาอาชีพฟรีแลนซ์ก่อน เพื่อฝึกซ้อมฝีมือไปพลาง ๆ และยังมีอีกหลายอาชีพเสริมเลยล่ะที่เราสามารถเลือกได้ตามความชอบ
อ่านมาถึงตรงนี้ คงต้องหยิบเพลงพี่ตูนที่ร้องบอกเราไว้ว่า “ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ…” อย่ายอมแพ้ละ 🙂
ขอบคุณ
- เรซูเม่กับ CV แตกต่างกันยังไง ใครรู้บ้าง จากเว็บไซต์ josDB.com [สืบค้นวันที่ 25/02/2020]