ลาออกจากงาน กับคำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนตัดสินใจ

อาการเบื่องานประจําอยากทำธุรกิจส่วนตัว ลาออกมาทำธุรกิจของตัวเองจะดีกว่าไหม ? อาจจะเกิดขึ้นกับทุกคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คนที่กำลังรู้สึกเบื่องาน หรือเบื่ออะไรก็ตาม รู้สึกอยากลาออกกลางคันขอสละเรือ ไม่ว่าความรู้สึกชั่ววูบนี้จะเกิดจากเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ Move on blog อยากจะบอกคุณว่า การลาออกจากงานของคุณจะต้องไม่ทำให้ชีวิตของคุณต้องแย่ หรือส่งผลกระทบร้ายแรงจนทำให้เครียดแบบปวดสมองมากกว่าเดิม หรือไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และทำให้คุณต้องคิดหนักไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต ดังนั้น มาตอบคำถามที่เราเตรียมไว้ให้คุณดีกว่านะ

ลาออกจากงาน

1. ลาออกแล้วจะไปทำอะไร ? มีธุรกิจส่วนตัวรองรับหรือยัง ?

เบื่องานประจําทําอะไรดี ? เป็นคำถามแรก ๆ เลยที่คุณจะต้องตอบหากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนมาโดยตลอดไม่เคยทำงานส่วนตัว หรือครอบครัวไม่ได้มีกิจการให้สืบต่อ คุณคงต้องหาธุรกิจที่ใช่ สามารถทำเงินได้ เป็นสิ่งที่คุณรักและสามารถอยู่ด้วยโดยที่คุณไม่เบื่อ และสนุกกับสิ่งนั้น ต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง แนะนำว่า คุณสามารถจดสิ่งที่ชอบและอยากทำใส่กระดาษหย่อนเก็บไว้ทุกเดือน ๆ เพื่อเช็กว่าคุณชอบทำอะไรจริง ๆ วัดจากคะแนนผลโหวตไปเลย เมื่อถึงเวลานำมาเปิดดูว่าคำตอบไหนมากที่สุด พร้อมกับตรวจสอบว่าสามารถทำธุรกิจนั้น ๆ ได้อย่างไรบ้าง

ตัวอย่าง คุณพบคำตอบว่าชอบถ่ายภาพ อยากมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง เมื่อได้สิ่งที่ใช่พร้อมกับค่อย ๆ ดูลู่ทางว่า ธุรกิจนั้นเวิร์คพอที่จะเลี้ยงชีพได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ อย่ารอช้าพัฒนาตัวเองและหาประสบการณ์ที่จะพิสูจน์ฝีมือ ด้วยยุคสมัยดิจิทัลแล้ว การขายภาพบนช่องทางออนไลน์มีมากมาย และยังมีการจ้างงานแบบฟรีแลนซ์ลองมองหางานดูค่ะ เพื่อสานฝันให้คุณก้าวไปให้ถึงจุดหมาย หากมีทุนธุรกิจไม่พอ อย่าใจร้อนรีบลาออกนะคะ ลองทำทั้งสองอย่างพร้อมกันก่อน หากเวิร์คก็ลุย !!

หากสนใจสามารถอ่านบทความอยากลาออกมาเป็นฟรีแลนซ์ต้องทำไง ? ซึ่งทีมงาน Move on blog จัดทำไว้ให้คุณแล้ว

อยากลาออกจากงานต้องทำไง

2. มีเงินเก็บหรือไม่?

ก่อนจะลาออกจากงานคุณมีเงินเก็บเท่าไหร่ ? เรื่องนี้สำคัญพอ ๆ กับคำถามแรกเลย เพราะเงินทองต้องวางแผนอายุเรามากขึ้นทุกวัน ๆ แน่นอนว่าความเสี่ยงยิ่งสูง หากอายุมากเริ่มธุรกิจแล้วล่มก็คงจะแย่เหมือนกัน แนะนำค่ะ ควรมีเงินก้อนโตเก็บพอใช้อย่างน้อย 6-12 เดือน เช่น ใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท จำเป็นต้องมีเงินเก็บอย่างน้อย 120,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่นอนนิ่ง ๆ เย็น ๆ ในธนาคารเลย เพราะชีวิตไม่แน่นอนให้อุ่นใจไว้ก่อนหากเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้มีตัวช่วยต่อลมหายใจให้กับเราและธุรกิจล่ะจ้า

3. คุณพร้อมจะลำบากหรือไม่ ?

คำถามวัดใจยิ่งกว่าทางสี่แพร่ง การที่คุณลาออกจากงาน กระโดดออกจาก Comfort Zone ฮ่ะ ๆ แน่นอนว่าไม่มีชีวิตฟิน ๆ รอรับเงินเดือนในแต่ละเดือนเหมือนคราวที่เป็นมนุษย์เงินเดือนนะคะ แทบไม่มีวันหยุด เพราะทุกวันคือวันทำงาน หากวันไหนหยุดและไม่ได้วางแผนไว้ก็ชวดเงินได้ พูดง่าย ๆ คือ อยากได้เงินก็ต้องทำงาน แน่นอนว่าไม่มีการประเมินผลประจำปี ไม่มีหัวหน้างานคอยบ่น หรือคอยส่งมอบงานให้คุณ เพราะการเป็นเจ้านายตัวเองนั้น จะต้องวางแผนทุกอย่าง ดีไซน์ทุกอย่าง และบริหารทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง ยิ่งถ้ามีลูกน้องในทีมที่เราจะต้องจ่ายเงินให้ล่ะ ตรงนี้ต้องสู้เท่านั้น ! ดังนั้น จงถามใจตัวเองว่า พร้อมสู้หรือยัง ? ใจสู้หรือเปล่า ? ไหวไหมบอกมา ….

ลาออกจากงาน
Photo by Hermes Rivera on Unsplash

4. คุณจะอยู่กับสิ่งนั้นได้ตลอดชีวิตจริงหรือไม่ ?

ถามเหมือนการแต่งงานเลยนะคะ ใช่ค่ะ “คุณจะสามารถอยู่กับธุรกิจนั้นตลอดชีพโดยที่ไม่เบื่อได้หรือไม่ ? “ หากคุณตอบว่า รับรองไม่มีเบื่อแน่นอน Move on blog ขอสั่งให้คุณลุยค่ะ แต่ถ้าคำตอบคืออีกใจหนึ่งก็รัก อีกใจหนึ่งก็กลัว อืม… ตรงนี้อยากให้อดทนทำงานประจำไปก่อนนะคะ อย่าเพิ่งลาออกจากงาน ลองทดสอบตัวเองก่อนว่า ธุรกิจที่เราจะทำนั้นโอเคกับเราหรือไม่ ด้วยการแบ่งเวลาว่าง ๆ มาลองทำกิจการเล็ก ๆ ดูก่อน ถ้าทำแล้วสบายใจและกิจการไปได้สวย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่าเงินเดือนเสียอีก หากเจอสถานการณ์นี้ ผู้เขียนกล้าการันตีค่ะ การลาออกแล้วคุณจะได้ทั้งเงิน ทั้งธุรกิจที่ใช่เลยล่ะ

อ่านครบแล้วอยากให้ใจร่ม ๆ ค่อย ๆ คิดก่อนว่าเหตุผลที่ลาออกจากงานจริง ๆ นั้นคืออะไร ? เพราะการลาออกจากงานโดยไม่มีงานรองรับเป็นสิ่งที่เสี่ยงเอาเสียมาก ๆ ดังนั้น คิดให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ

บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาสนับสนุนให้ลาออกจากงานโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความ