กำลังเริ่มเรียนรู้การตลาดแบบ SEO Marketing อยู่หรือเปล่าจ๊ะ ?
คำตอบ คือ “ใช่” เรามี 25 เครื่องมือที่ผู้เขียนอยากจะให้คุณรู้จัก … ก่อนลงมือทำ SEO ล่ะ
1. Ahrefs
2. Semrush
3. SEO Site checkup
4. Alexa
5. Moz
6. Google Keyword Planner
7. Google Search Console
8. Google Analytics
9. Google Tag Manager
10. Google Trend
11. Keyword everywhere
12. Spy
13. SERPStat
14. SEO Profiler
15. Majestic SEO
16. Kwfinder
17. Woorank
18. Similar web
19. Screaming Frog
20. Website SEO Checker
21. Seobility
22. Yoast SEO
23. Light House
24. SEO Quake
25. Bonus Tool
โอ้ย มีเยอะแยะเต็มไปหม๊ด ใครจะไปรู้ ว่าใช้ทำอะไร … ใจเย็นก่อน เรามีมาเล่าาาา
เริ่มรู้จักเครื่องมือ SEO ไว้ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ให้ติดหน้า 1 Google แบบฟรี ๆ กัน ซึ่งรวมเครื่องมือทั้งแบบ On-page และ Off-page ไว้หมดเลย
SEO (Search Engine Optimization) คือ วิธีการที่ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ของ Google การปรับแต่งเว็บไซต์และเพิ่มลิงก์ที่มีคุณภาพ พร้อมกับเฟ้นหา Keywords ฮิตประกอบการทำเว็บไซต์
คำเตือน : คอนเทนต์นี้ค่อนข้างยาววววววว และต้องใช้เวลาอ่านพอสมควร หากไม่มีเวลา แนะนำให้แชร์ไว้ก่อนนะ !! ด้วยรักและห่วงยู
1. Ahrefs
เปิดด้วยแพลตฟอร์มเครื่องมือการทำ SEO ที่มีฟีเจอร์ช่วย เช่น Competitive Analysis, Keyword Research, Backlink Research, Content Research, Rank Tracking และ Web Monitoring ไม่ต้องกลัวว่า เครื่องมือนี้จะโป๊ะ! เพราะมีคนใช้ Ahrefs ใช้กันทั่วโลกอ่ะแหละ ความเฟี้ยสของ Ahrefs เครื่องมือ SEO อันนี้ คือ เราจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งข้อมูลของเรา และของคู่แข่ง จะบอกว่า เลิศมาก!!!
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ทดลองฟรี 7 วัน หลังจากนั้นจ่ายเดือนละ 7 ดอลลาร์
- อยากทดลองใช้ว่าเครื่องมือ Ahrefs – SEO Tools & Resources To Grow Your Search Traffic คลิกตรงนี้ก็จะรู้
- เครื่องมือ Ahrefs ช่วยอะไร : ช่วยหา Backlink ที่ยอดเยี่ยม
- เหมาะสำหรับ : SEO สายวิเคราะห์, สายสอดส่อง และทำกลยุทธ์
2. SEMrush
เครื่องมือทำ SEO อย่าง Semrush.com นี้ แทบจะเป็นอะไรที่ดูดวิญญาณชอบค้นหาข้อมูลเลยล่ะค่ะ เพราะมีเครื่องมือให้เล่นเยอะมาก ๆ เวลาเปิดเข้าไปรับรองว่าติดใจ เช่น Domain Overview, Organic Research, Backlink, Traffic Analytics, Market Explorer ฯลฯ
โดยเฉพาะส่วนของ SEO Content Template ที่ช่วยเราเช็กเนื้อหาที่เป็นมิตรกับคนอ่าน และยังช่วยวิเคราะห์อะไรได้อีกเพียบ ช่วยให้ปรับปรุงคอนเทนต์ได้เทพยิ่งขึ้น
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงินล่ะ
- อยากทดลองใช้ ก็เปิดที่นี่ semrush.com
- เครื่องมือ SEMrush ช่วยอะไร : วิเคราะห์คู่แข่ง และช่วยวิเคราะห์บทความของเราได้ว่าเป็น SEO-friendly Content หรือเปล่านะ แต่ก็วัดได้แบบเบื้องต้น
- เหมาะสำหรับ : SEO สายเรียนรู้ มีเวลาว่างเหลือเฟือ ชอบอะไรใหม่ ๆ และอยากได้เครื่องมือช่วยวัดประสิทธิภาพคอนเทนต์ก่อนโพสต์จริง
ปล. หากสนใจอยากให้สอนวิธีการใช้เพิ่มเติม คอมเมนต์บอกด้านล่างแล้วจะมาเขียนเล่าให้ฟัง
3. SEO Site Checkup
เครื่องมือ SEO Site Checkup มีความใกล้เคียงกับ Ahrefs อยู่เหมือนกัน เพียงแค่จะบอกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ช่วยให้เราแก้ไข On-Page ได้เป๊ะปังมากขึ้น ลองใช้ดู เพราะผู้เขียนลองใช้แล้ว เจอข้อต้องปรับเว็บอีกเพียบบบบบ ฮ่า ๆๆ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย :
- อยากทดลองใช้ seositecheckup.com ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ SEO Site Checkup ช่วยอะไร :
- เหมาะสำหรับ : SEO สายกลยุทธ์ที่อยากได้ข้อมูลปรับ On-Page และมีบทความ Article Library ให้อ่านเสริมความรู้ใหม่ค่ะ
4. Alexa
ชื่อเหมือนลำโพงอัจฉริยะ Amazon แต่ไม่ใช่นะ 555+ นี่เป็นเครื่องมือ SEO ของ Amazon ต่างหาก ที่เกิดมาช่วยวิเคราะห์หาคีย์เวิร์ดได้ ช่วยวิเคราะห์ Audience Interest, Audience Overlap และอื่น ๆ มีข้อแม้ว่า หลังจากทดลองใช้แล้วต้องจ่ายเงินรายเดือน ปล. มีความน่าสนใจตรงที่มีเครื่องมือช่วย Voice Seach ด้วย
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ทดลองฟรี 14-30 วัน หากชอบค่อยจ่าย มี 2 แพคเกจ คือ 149 ดอลลาร์/เดือน และ 299 ดอลลาร์/เดือน
- อยากทดลองใช้ Alexa ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Alexa ช่วยอะไร : ช่วยหา Organic Keyword Research, Paid Keyword Research, ompetitor Keyword Matrix, Competitor Backlink Checker, Keyword Difficulty Tool,
On-Page SEO Checker, Keyword Share of Voice - เหมาะกับ : SEO สายกลยุทธ์ และวางแผนรุกคู่แข่ง
5. Moz
ตัวช่วยที่แสนดีอย่าง Moz คือซอฟแวร์ฟรีที่นักการตลาด SEO ต้องรู้จัก เพราะ Moz สามารถบอก Keyword Reseearch, SEO Audit & Crawl, Backlink Research, Rank Tracking, SEO Toolbar, Domain Analysis
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน
- อยากทดลองใช้ ก็เปิดที่นี่ moz.com
- เครื่องมือ Moz ช่วยอะไร : ช่วยให้เรารู้คะแนนของเว็บไซต์ (PA / DA) ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ลิงก์นี้มีคุณภาพหรือไม่ เหมาะกับการแลก Backlinks
6. Google Keyword Planner*
เป็นคัมภีร์แห่งการค้นหา Keyword ต้อง Google Keyword Planner อยู่กับ Google Ads (ใช้ทำการตลาดแบบ SEM) อ่ะแหละ เป็นแพลตฟอร์มบอกข้อมูล Google Search โดย Google เอง โดยจะบอก จำนวนการค้นหารายเดือนโดยเฉลี่ย คีย์เวิร์ดใกล้เคียง เหมือนกับเรามาหาวัตถุดิบในการผลิต SEO Marketing ค่ะ จึงไม่มีเส้นทางตายตัวว่าต้องทำอย่างไร จงเลือกทำตามกลยุทธ์ของคุณ
Key Take Away
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลลึก ๆ ต้องจ่ายเงินซื้อ Ad ก่อนอ่ะนะ
- อยากทดลองใช้ ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Google Keyword Planner ช่วยอะไร : ช่วยให้รู้ว่า คีย์เวิร์ดนั้นควรเล่นหรือเปล่า ?
7. Google Search Console*
ทำ SEO Marketing ไม่ใช่การผลิตทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แต่เราจะต้องรู้จักและวัดผลลัพธ์ให้ได้ว่า เว็บไซต์ของเรา คนค้นพบได้อย่างไร ดังนั้น การมี Google Search Console ติดเอาไว้ ก็เปรียบเสมือนกับเรามีกล่องยาสามัญประจําบ้านเอาไว้อ่ะแหละ เพราะจะได้รักษาถูกทาง
หากทำ SEO ไปแล้วไม่ติดสักอย่าง หรือได้ Target ที่ไกลเกินความเป็นจริง … นักการตลาด SEO จ๋า อย่าดื้อดึงทำแผนเดิมเลยนะ แนะนำให้เปลี่ยนแผนใหม่ทันที ก่อนจะเรื้อรัง แก้ไม่หายล่ะเด้อ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ต้องติดตั้งบนเว็บไซต์ของใครของมันล่ะเด้อ
- เครื่องมือ Google Search Console ช่วยอะไร : ช่วยให้เรารู้ว่า คีย์เวิร์ดไหนติด และคนค้นหาเราจากคำว่าอะไร ช่วย Index เว็บไซต์เราด้วยแหละ
จริง ๆ เครื่องมือนี้ช่วยอะไรหลายอย่างเลย แต่ขอเล่าแบบคร่าว ๆ พอเข้าใจก่อนนะ 🙂 หากอยากรู้ลึกรู้จริง คอมเมนต์ใต้คอนเทนต์โล้ด !!
8. Google Analytics
เป็นเครื่องมือวัดผลเช่นเดียวกัน แต่จะลึกกว่า Google Search Console เยอะเลยแหละ เพราะเก็บทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับ Visitor ผู้มาเยี่ยมเว็บเรา ทำให้เรารู้มากกว่า และเข้าใจมากกว่า ดังนั้น หมั่นเก็บข้อมูลมาต่อยอดการทำ SEO Marketing นะจ้ะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ ต้องติดตั้งเอง
- เครื่องมือ Google Analytics ช่วยอะไร ช่วยวิเคราะห์ได้เยอะแบบไม่ต้องมโนไปเอง
- เหมาะสำหรับ SEO สายวางกลยุทธ์ และต้องวิเคราะห์ให้แตกฉานนน
9. Google Tag Manager
GTM (Google Tag Manager) เป็นเครื่องมือเชื่อมต่อความเข้าใจระหว่างโปรแกรมเมอร์และนักการตลาดอ่ะแหละ และยังช่วยรวม Tag ไว้ที่เดียวกัน ช่วยให้ติด Facebook Pixel, Google Analytics, Google Adword หรืออื่น ๆ ได้ แต่ก็นะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี ต้องติดตั้งเอง
- อยากทดลองใช้ Google Tag Manager ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Google Tag Manager ช่วยอะไร : ช่วยลดเวลาการทำงาน โดยเฉพาะการเขียนโค้ด
- เหมาะกับใคร นักการตลาดที่ทำทั้ง SEO และ SEM ควรจะต้องมีเอาไว้ข้างกาย
10. Google Trend
หากคุณชอบดูดวง ชอบรู้ล่วงหน้า หรือชอบพยากรณ์ Google Trend น่าจะเป็นเพื่อนรักของคุณได้เลยแหละ เพราะบอกทุกอย่าง บอกทุกสิ่ง บอกทุกเทรนด์ตามชื่อ และใช้งานง่ายด้วย เพียงเรามีคีย์เวิร์ดในใจไม่ต้องเดาอีกต่อไป นำลงไปค้นหา จะได้รู้ว่า ชาวเน็ตเขาชอบ หรือกำลังคิดแบบเราไหมนะ ? ลองใช้แล้วจะปลื้ม เพราะที่นี่เก็บสถิติของคนทั่วโลกไว้ที่เดียว
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ Google Trend ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Google Trend ช่วยอะไร
- เหมาะสำหรับ SEO สายวางแผนแคมเปญ สายเขียนที่ชอบความแม่นยำ ไม่ชอบเดาใจ ใช้วางตารางคอนเทนต์บล็อกได้ดีเยี่ยม
11. Keyword Everywhere
เป็นอีกปลั๊กอินใช้ติดบน Firefox หรือ Google Chrome เครื่องมือหาคีย์เวิร์ด ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่า ควรจะเลือกคำไหนมาประดิษฐ์เป็นคีย์เวิร์ดหลักของการทำคอนเทนต์ SEO ค่ะ มีคนโหลดใช้บน Chrome web store มากกว่า 800,000+ ราย
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ Keyword Everywhere ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Keyword everywhere ช่วยอะไร ดูจำนวนการค้นหาของคีย์เวิร์ดนั้น ๆ เช่น Search Volume, CPC, Competition ง่ายกว่า Google Adword อ่ะแหละ
12. SpyFu
ตรงตามชื่อ Spy เลยค่ะ เป็นเครื่องมือสอดแนมดูเว็บคู่แข่ง ซึ่งเหมาะสำหรับ SEO สายลับชอบล้วงตับตุ๊กแก (555+) และยังช่วยเรื่องหา Backlink ที่คู่ควรกับเว็บไซต์เรา SEO Research หรือทำ Reports จริง ๆ มีตัวช่วยหลายอย่างเลยล่ะบนเว็บนี้
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ไม่ฟรี จ่ายเดือนละ 33-229 ดอลลาร์แบ่งตามแพคเกจ
- อยากเห็นว่า SpyFu เป็นยังไงสามารถคลิกที่นี่
- เครื่องมือ Spy ช่วยอะไร
13. SERPStat
สำหรับเครื่องมือ SERPStat ถูกเรียกว่าเป็น Growth Hacking Tool ในการทำการตลาดออนไลน์ หรือปั้นคอนเทนต์ สามารถใช้แบบปลั๊กอินก็ได้ (เฉพาะ Firefox เท่านั้น) นิยมใช้เป็นเครื่องมือพิจารณาคีย์เวิร์ดหลักในการปั้นคอนเทนต์ค่ะ นักการตลาดที่กำลังจะปรับ SEO On-Page น่าจะต้องทดลองใช้ดูนะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย :
- อยากทดลองใช้ SERPStat ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ SERPStat ช่วยอะไร ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าเราต้องเลือกคำไหน และตอนนี้เว็บของเราต้องปรับอะไรหรือเปล่า ?
14. SEO Profiler
เริ่มเหนื่อยกันหรือยังคะ ? เกินครึ่งทางแล้วนะสำหรับการแนะนำเครื่องมือทำ SEO Marketing กับ SEOProfiler เป็นเครื่องมือที่เคลมว่าเป็น “ํGet more visitors & increase sales” เลยแหละ เพราะช่วยหลายอย่างเหมือนกัน เช่น Daily ranking checks, Automated SEO audits, On-page optimization, Off-page optimization และ Website analytics ฯลฯ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ทดลองฟรี 7 วัน ถ้าถูกใจต้องจ่ายเดือนละ 69.95 ดอบบาร์ต่อเดือน
- อยากทดลองใช้ SEO Profiler ก็เปิดที่นี่
15. Majestic SEO
เครื่องมือ SEO Marketing ที่เสียเงินค่ะ ผู้เขียนเคยใช้ Majestic SEO มาครั้งนึงซึ่งไม่ได้ซื้อเองแต่ใช้ User ของบริษัทแห่งหนึ่ง ข้อมูลค่อนข้างครบนะคะ ในการทำ SEO ที่เครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์เยอะมาก ละเอียดมาก และดู Spam ได้เคลียร์มาก สำหรับ SEO Specialist สายสะสางเว็บไซต์ควรมีไว้ข้างกาย แต่ส่วนตัวของผู้เขียนนั้น เปย์ไม่ไหวเจ้าค่ะ ฮ่า ฮ่า
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : มีค่าใช้จ่าย 49.99-399.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
- อยากทดลองใช้ Majestic SEO ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Majestic SEO ช่วยอะไร
16. Kwfinder
เครื่องมือหาคีย์เวิร์ดโดนใจแบบเบสิค Kwfinder ใช้คำไหนแล้วขายดี ส่วนใหญ่ก็ใช้ทำ Long Tail Keyword และวางแผน SEO ได้ดีเลยแหละ เครื่องมือนี้ เราอาจจะต้องมีพื้นฐานอยู่แล้วว่า เรามีคำอะไรอยู่ในใจ ต้องการทำอะไร พูดง่าย ๆ คือ ต้องมีธงในใจก่อนนะจ๊ะ ใช้แบบเคว้ง ๆ ไม่ได้นะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี แต่กำหนดลิมิตการค้นหาคีย์เวิร์ด
- อยากทดลองใช้ Kwfinder ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Kwfinder ช่วยอะไร ช่วยให้เรารู้ว่า คนชอบคีย์เวิร์ดอะไร หาอะไรอยู่ เฟ้นหาคีย์เวิร์ดแตกต่างคนอื่นได้ดี
17. Woorank
สำหรับ Woorank เป็นเครื่องมือ SEO ที่ช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ ช่วยรีวิวเว็บไซต์ได้ดีเลยแหละว่า เว็บดีไหม ? มีคะแนนเท่าไหร่ วิเคราะห์ได้เลยว่า จะต้องทำอะไรต่อ ปล.ใช้สอดแนมเว็บของคู่แข่งได้ด้วยล่ะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : มีทดลองฟรี 14 วัน
- อยากทดลองใช้ Woorank ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Woorank ช่วยอะไร
18. Similar Web*
เป็นเครื่องมือทำ SEO ที่ผู้เขียนชอบใช้มากที่สุด !! เพราะมันฟรี (555+) ส่วนใหญ่จะใช้ Research ดูข้อมูลเว็บไซต์เป็นหลัก เหมาะกับการทำการตลาด (Marketing) ออนไลน์ แนว SEO Content Strategies และยังทำ อื่น ๆ ได้ด้วย เช่น Traffic Data Website, App Analysis, Competitive Analysis, Keyword Research, Historical Data และอื่น ๆ ที่เรา
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี (ดูรีพอร์ตย้อนหลังได้ 3 เดือน) / จ่ายเงิน (จะได้ฟีเจอร์เยอะกว่า)
- อยากทดลองใช้ Similar Web ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Similar Web ช่วยอะไร : ช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ ดูรายละเอียดอื่น ๆ ที่เหมาะกับการพัฒนา On-Page เว็บไซต์ค่ะ
19. Screaming Frog
เจ้ากบเขียว!! ผู้ที่ช่วยพิทักษ์ SEO มือใหม่ที่ค้นหาลิงก์เสียยังไม่เก่ง ผู้เขียนเคยใช้ครั้งนึงตอนเริ่มทำงาน SEO ใหม่ ๆ และพบว่า แทบจะเป็นเจ้าชายกบแห่งวงการ SEO ก็ว่าได้ เพราะมันช่วยเรื่องหาลิงก์เสียที่ทำให้คะแนนเว็บไซต์ตกต่ำ ช่วยมองหาลิงก์ Redirects ที่พังแล้ว ช่วยดูว่าเราทำ Title & Meta เป็นยังไง และมีฟีเจอร์ช่วยอื่น ๆ ในการปรับ SEO Off-Page ได้เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : มีทั้งฟรี และจ่ายเงิน 149 ปอนด์/ปี
- อยากทดลองใช้ Screaming Frog ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Screaming Frog ช่วยอะไร ช่วยให้เรารู้ความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ ชอบที่ Screaming Frog นั้นรู้ว่าลิงก์เสียอยุ่ที่ไหนแบบเราไม่ต้องนั่งงมเข็มในมหาสมุทร
20. Website SEO Checker
ช่วยทั้ง SEO On-Page และ SEO Off-Page เพราะช่วยดูทั้ง Domain Authority Checker, Backlink Checker, Spy Keywords, Domain Age Checker, XML Sitemap ดูได้หมดตามที่เราต้องการปรับ SEO
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ Website SEO Checker ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Website SEO Checker ช่วยอะไร
21. Seobility
เป็นระบบ All-In-One SEO Software & Tool ช่วยในเรื่อง Website Crawling และ Google Rank Tracker แบบอัปเดททุกวัน แต่มีข้อจำกัดคือดูแลเพียงแค่ 1 เว็บไซต์เท่านั้น ถ้าคุณวิเคราะห์แค่เว็บเดียวมีใช้ฟรีและมีแบบจ่ายเงิน แบ่งเป็น Premium จ่ายเดือนละ 50 ดอลลาร์ (ดูแล 3 เว็บไซต์) และ Agency จ่ายเดือนละ 200 ดอลลาร์ (ดูแล 15 เว็บไซต์) ค่ะ
สำหรับ Seobility เป็นเครื่องมือทำ SEO ที่มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาดัตช์ แต่ไม่มีภาษาไทย มีบล็อกให้อ่านด้วยนะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : มีทั้งแบบฟรี และจ่ายเงิน
- อยากทดลองใช้ Seobility ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ Seobility ช่วยอะไร : ช่วยให้เรารู้ว่า เว็บไซต์ของเราเป็นยังไงบ้างหนอ มีคุณภาพพอในสายตาของ Google หรือยัง
22. Yoast SEO*
ปลั๊กอินตัวเทพที่เซียน SEO ต้องรู้จัก!! เพราะ Yoast แทบจะเป็นเพื่อนซี้ของนัก SEO ทุกคนที่ทำเว็บไซต์บน WordPress เลยแหละ การันตีว่าเป็น “The #1 WordPress SEO Plugin” ด้วยความที่ง่ายและดีช่วยให้ติดหน้าแรกของ Google ได้อย่างทรงพลังและมีประสิทธิภาพแบบไม่อวย จึงไม่แปลกที่จะต้องใช้ Yoast ล่ะนะ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี และเสียเงินก็มีเริ่มตั้งแต่ 299-499 ดอลลาร์ต่อปีค่ะ
- อยากทดลองใช้มีใน WordPress
- เครื่องมือ Yoast SEO ช่วยอะไร : เป็นปลั๊กอิน SEO ช่วยให้การกรอกข้อมูล SEO title และ Meta description ได้ดี ช่วยให้ติดหน้า Google ง๊ายง่าย นอกจากเขียนให้เขียวก็ต้องเขียนให้ Friendly ด้วยต้องใช้ให้เหมาะสมนะ
23. Light House
เป็นอีกเครื่องมือของ SEO สาย On-Page ที่ช่วยวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ผลว่า เว็บของเรานั้น … เป็นอย่างไร ไวแค่ไหนและต้องปรับอะไรบ้าง … ดูได้ทั้ง Performance, Progressive Web App, Best practices, Abbessibility, SEO พร้อมกับเทียบชัด ๆ ระหว่าง Mobile และ Destop เอาเป็นว่าไปลองเล่นและวิเคราะห์กันดู
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ เปิดเว็บที่อยากทดสอบและกด F12 > มองหา Audits แล้วก็วิเคราะห์ได้
- เครื่องมือ Light House ช่วยอะไร : ช่วยให้รู้ว่า Google มองเว็บไซต์เราอย่างไรหนอ
24. SEO Quake*
SEO Quake ใช้เป็นประจำ และชอบมว๊าก เพราะใช้ง่าย บางครั้งก็ใช้สืบว่า Google SERP (เป็นคำย่อมาจาก Search Engine Results Page) เว็บอื่น ๆ ใช้ SEO title และ Meta description ยังไงบ้าง ใช้ Keyword อะไร หรือแม้กระทั่งสืบว่าเว็บนั้น ๆ ยังขาดเหลืออะไร หรือมี Internal link ไปไหน External link ฝากไว้กับใคร เหมาะสำหรับ SEO สายนาตาชา โรมานอฟ เด้อ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ SEOquake ก็เปิดที่นี่ มีให้ใช้บน Extensions ของ Chrome ด้วย
- เครื่องมือ SEO Quake ช่วยอะไร : ช่วยวิเคราะห์ Google SERP และ Troubleshoot ของเว็บค่ะ
25. GTmetrix
ความเร็วเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เว็บติดอันดับ … และการใช้เครื่องมือในการวัดผลลัพท์อย่าง GTmetrix ก็น่าสนใจเช่นกัน ปล. ในส่วนเว็บของผู้เขียนนั้น … ชัดเจนว่า เว็บช้า 555+ ดังนั้น ต้องรีบปรับด่วน ๆ
Key Take Away :
- ค่าใช้จ่าย : ฟรี
- อยากทดลองใช้ GTmetrix ก็เปิดที่นี่
- เครื่องมือ GTmetrix ช่วยอะไร : ตรวจความเร็ว
- เหมาะกับใคร : SEO สายปรับ และสายเขียนโค้ด Dev Web เอง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่า จะได้เครื่องมือทำ SEO ติดไม้ติดมือกลับออกไปใช้ในการทำงานนะจ้ะ สหาย Digital Marketing ทั้งหลาย 🙂
ขอบคุณ quora.com, thesearchagency.com