5 สิ่งที่ช่วยให้ Email Diract Marketing ไม่น่ารำคาญ

5 สิ่งที่ช่วยให้ Email Diract Marketing ไม่น่ารำคาญ

อีเมล ! อีเมล ! การตลาดผ่านอีเมล หรือ Email Marketing ยังใช้ได้อยู่หรอ ?

เกริ่นก่อนจะเล่าถึงเรื่องราว Email Direct Marketing (EDM) สมัยก่อน เราจะได้รับจดหมายการตลาดส่งตรงมาถึงบ้านทั้งโปรโมชั่น จดหมายกล่าวขอบคุณ และจดหมายอื่น ๆ ส่งตรงจากบริษัทฯ มาให้ลูกค้าคนสำคัญ แต่ด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างสูงในการจัดส่ง การปริ้นเอกสาร ฯลฯ ทำให้หลายแบรนด์หยุดการทำการตลาดผ่านจดหมาย เปลี่ยนมาเป็นการตลาดผ่านอีเมล หรือ Email Direct Marketing (EDM) หรือที่เรียกว่า EDM

EDM ไม่ใช่เพลงแต่เป็นตัวช่วยเร่งยอดการตลาดออนไลน์

ถามว่าประโยชน์ของการส่ง Email Direct Marketing (EDM) หรือ Email Marketing คืออะไร เราคงต้องขอเล่าตามจริง ตามประสบการณ์ที่ทำอยู่นะคะ มีดังนี้

  • Email Direct Marketing (EDM) ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์ VS ลูกค้า
  • Email Direct Marketing (EDM) ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ
  • Email Direct Marketing (EDM) เข้าถึงได้ไว ใช้งานได้ง่าย และสามารถคลิกใช้สิทธิได้ทันที (หากมีโปรโมชั่นออนไลน์ที่กำลังโปรโมทอยู่) 
  • Email Direct Marketing (EDM) ช่วยกระตุ้นยอดขายได้จริง หากทำถูกใจลูกค้า และส่งถูกเวลาที่ลูกค้าต้องการ

แม้จะมีประโยชน์ แต่ EDM ก็ยังมีข้อควรระวังอยู่เหมือนกันนะคะ เช่น

  • น่ารำคาญ ถูกลูกค้าเมิน
  • ส่งเยอะเกินมีโอกาสเป็น Spam Email หรืออีเมลขยะ (Junk Email)
  • มีโอกาสที่จะสูญเสียข้อมูลลูกค้า หากพวกเขากดยกเลิกรับข่าวสาร หรือ Unsubscribe ซึ่งเป็นข้อควรระวังมาก ๆ

แล้วจะทำอย่างไรให้ Email Marketing ไม่แป้ก

หากเริ่มเข้าใจว่า การส่ง Email Direct Marketing แบบหว่านแหเรื่อยเปื่อยก็ไม่เป็นผลดีต่อแบรนด์ ดังนั้น เราจะต้องมาปรับความเข้าใจกันใหม่ตามนี้จ้า

1. ชื่ออีเมลต้องดี

เพราะการทำ Email Direct Marketing (EDM) เหมือนการทำจดหมายแจ้งข่าว วัน ๆ ลูกค้าจะได้รับอีเมลจำนวนมหาศาลส่งตรงมาใน Inbox เปิดแบบไม่หวาดไม่ไหวแน่ ๆ ดังนั้น “ชื่อเรื่องที่ดีมีโอกาสสร้างยอดขาย”

จากประสบการณ์ทำอีเมลมาร์เก็ตติ้งของผู้เขียน เราพบว่า ชื่ออีเมลมีผลต่อการเปิดหรือไม่เปิดของลูกค้ามากที่สุด หากชื่ออีเมลไม่สอดคล้องกับคาแรคเตอร์ของผู้อ่าน (ลูกค้า) พวกเขาก็จะไม่เปิด ไม่สนใจ และไม่แคร์ … ทำให้การตลาด Email Direct Marketing (EDM) แป้กไม่เป็นท่า

โดยเฉพาะ 5 พยางค์แรกบนชื่ออีเมล “สำคัญ-มาก-มาก” เพราะเป็นประโยคชี้ชะตาเลยว่า จะเปิดหรือไม่เปิด ดังนั้น คิดให้ดีนะคะ ก่อนจะส่งอีเมล

สำหรับกลยุทธ์การตั้งชื่ออีเมลไม่มีสูตรตายตัวนะคะ ! เราจะต้องทดลองเองทั้งหมด เพราะแต่ละแบรนด์เรามีลูกค้าแตกต่างกัน หมายความว่า คุณจะต้องรู้จัก รู้ใจ เข้าใจลูกค้าของคุณ จำไว้ว่า “หากวันนี้คุณไม่ดูแลลูกค้าของคุณ คนอื่นก็จะดูแลแทน” ล่ะเด้อ

2. ชื่ออีเมล และข้อมูลอีเมลต้องสอดคล้องกัน

สำคัญอีกแล้วค่ะ การตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่งอีเมลเนี้ยะ เป็นสิ่งที่ทีมการตลาดต้องช่วยกันเช็กเลยนะคะ หากคุณส่งอีเมล “แจกส่วนลด!” ส่วนข้างในเป็นข้อมูลจดหมายข่าวเฉย ๆ (Newsletter) รับรองว่า คนที่เปิดอีเมลจะต้องหัวเสียสุด ๆ เพราะคลิกเข้ามาเพื่อหาส่วนลด แต่นี่เธอส่งอะไรให้ฉัน !!!

เช็กให้ดีนะคะ ทั้งชื่ออีเมล คำบรรยาย ข้อมูล และลิงก์ (Link) ที่อยู่ใน Email Direct Marketing (EDM)  ซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย เพราะถ้าทำผิดพลาดบ่อย ๆ จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถืออย่างแรงเลยล่ะ

3. เนื้อหาอีเมลต้องโดน

เนื้อหาอีเมลไม่ต่างอะไรจากการทำ Content บนเว็บไซต์เลยค่ะ เพียงแค่ต้องย่อให้สั้นทำให้ไว เข้าใจได้ง่าย และเชิญชวนให้คลิกต่อ อ่านกันต่อ หรือเลือกใช้สิทธิทันที จะต้องมีความชัดเจนไม่ “งง” พูดตรง ๆ เลยว่า ต้องการสื่อสารอะไร และต้องเป็นอีเมลที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้าด้วยล่ะ

สูตรการทำอีเมล คือ “สั้น ง่าย เข้าใจ ใช้ได้จริง” จำไว้ว่า “ลูกค้าไม่ได้มีเวลาอ่านอีเมลของเราเยอะขนาดนั้น” เอาเป็นว่า “ต้องคิดให้ดีก่อนทำอีเมลนะจ้ะ”

4. ไฟล์ภาพไม่ใหญ่เกิน

ไฟล์ภาพใหญ่ในอีเมลถือเป็นมัจจุราช พลาดยอด Open Rate หรือยอด Click Rate เลยนะคะ เพราะไม่มีใครอยากใช้เน็ตโหด โหลดนาน ๆ แน่นอน เอาเป็นว่า ย่อไฟล์ภาพได้ก็ย่อนะจ้ะ จะได้ไม่เปลืองเน็ต เปิดง่าย ๆ เพิ่มโอกาสขายให้ธุรกิจได้ด้วยล่ะ

5. ส่งในเวลาที่ใช่

เป็นอีกสิ่งที่ต้องรู้ ต้องมี ต้องวิเคราะห์เองอีกแล้ว กับช่วงเวลาที่ใช่ในการส่งอีเมล อ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัว (อีกแล้ว) การส่งอีเมลช่วงเช้าวันจันทร์จะมีคนเปิดอ่านเยอะพอสมควรค่ะ คิดว่า เป็นเพราะเช้าวันจันทร์คือวันเริ่มต้นสัปดาห์ที่ผู้คนจะเริ่มเช็กว่าต้องทำอะไรตลอดสัปดาห์นี้ ! เลยเปิดอีเมลนั้นเอง

เข้าใจเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำ Email Direct Marketing (EDM) เบื้องต้นกันแล้ว และเช่นเคยสามารถแชร์ไอเดียกันได้เสมอจ้า 🙂

ขอบคุณ cmswire.com