4 ทางสู้ Facebook เปลี่ยนเก่ง

4 ทางสู้ Facebook เปลี่ยนเก่ง

พ่อจ๋า แม่จ๋า !! เราคงต้องยอมรับจริง ๆ ว่า “การตลาดบน Facebook ช่วงนี้เปลี่ยนเก่งยิ่งกว่าสิ่งใด” ล่าสุด ออกมาบอกว่าจะซ่อนยอดไลค์ ไหนจะแสดงผลใหม่เพียง 3 บรรทัดแรกเท่านั้น

ล่าสุด เฟซบุ๊กจริงจังกับการควบคุมความปลอดภัยของผู้ใช้งานด้วยการห้ามพ่อค้าแม่ขายออนไลน์โพสต์ข้อมูลที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้คน เช่น การโพสต์ข้อมูลใบเสร็จ ข้อมูลการแชท ข้อมูลอื่น ๆ อย่างสลิป บัญชีธนาคาร รีวิวแบบแคปจากแชท เลขพัสดุ เอาละเหว่ย เอาล่ะหว่า เอาไงดีหว่า เพราะก็มีเพจปลิวไปหลายเพจแล้ว

ทำใจเมื่อ Facebook Algorithm เปลี่ยนเก่ง

ถึงกระแสนิยมจะดรอปลงมา เพราะเปิดมานานกว่า 15 ปีแล้วเนาะ แต่ก็ต้องยอมรับล่ะค่ะว่า ทุกวันนี้มีผู้คนกว่า 1,600 ล้านชีวิตที่ใช้เฟซบุ๊กทุกวัน และมีบางธุรกิจที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นโซเชียลมีเดียในการขายสินค้าแบบ Social Commerce อย่างเดียว ไม่พึ่งใคร ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งหวั่นวิตก เรามาเรียนรู้การรับมือกับการที่เฟซบุ๊กมักจะเปลี่ยนกฎ หรือลดการมองเห็น ไม่ได้เล่าเชิงเทคนิคแต่เป็นเชิงกลยุทธ์รับมือเบื้องต้น ได้แก่

1. จงทำตามกฎค่ะ

วิธีการนี้อาจจะไม่เฟี้ยวฟ้าวนะคะ (55+) เพราะเราแนะนำตรง ๆ เลยว่า เฟซบุ๊กให้ทำอะไรก็จงทำตามเด้อจ้า เพราะถ้าเพจปลิวหรือเพจหายไปอันนี้อาจจะงานงอก และระหว่างนี้จงหาหนทางการขาย และการทำการตลาดที่เหมาะกับธุรกิจเรานะคะ เช่น

2. ทำให้เฟรนลี่กับคนเล่นเฟซ และเข้าใจชาวเพจ

ยังขาดเธอ (Facebook) ไม่ได้ หัวใจขอสารภาพ …. ถึง Facebook จะเปลี่ยนเก่งแต่ก็อย่างเพิ่งเปลี่ยนใจ อย่าเพิ่งปล่อยเพจร้าง หรือหนีหาย เราจงมุ่งมั่นทำคอนเทนต์ไม่เน้นขาย เน้นเข้าถึงเข้าใจ เข้าหาให้มากขึ้น อย่างที่ทราบว่าเฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับเพื่อนและครอบครัวมากขึ้น หมายความว่า คุณต้องลงมือทำทันที เพราะไม่มีใครรู้เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ธุรกิจได้ดีเท่ากับตัวคุณแล้วล่ะจ้ะ 

เพราะยิ่งใกล้ชิดเท่าไหร่ ยิ่งสร้างโอกาสการซื้อขาย และการเข้าถึงได้มากเท่านั้น

2. เพจมีเรื่องราวชัดเจน คนจำได้ ลองใช้ครีเอทีฟฮับเพิ่มไอเดีย

ชัดเจน !! ต้องชัดเจน เพจหนึ่งเพจจะต้องมีตัวตนที่คนจำได้ และมีเป้าหมายเห็นได้ชัดว่า สื่อสารอะไร จากกรณีศึกษาที่ผู้เขียนเคยลองทำเองมาหลายปี ทำให้เรียนรู้ถึงสิ่งนี้ค่ะ หรือจะทดลองเปิดครีเอทีฟอับ (Creative Hub) เพื่อดูไอเดียชิ้นงานโฆษณาหรือคอนเทนต์ก็ได้นะ

3. ต้องเป็นธรรมชาติ อย่าโกหก มีความน่าเชื่อถือ

จากประสบการณ์จริงที่ทำงานด้านคอนเทนต์ออนไลน์นะคะ อย่าทำโฆษณา หรือคอนเทนต์ที่โกหกลูกค้า หรือหลอกชาวเน็ตเลยค่ะ ยุคนี้ Thailand 4.0 แล้วด้วย การตรวจสอบจับโป๊ะนั้นง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก หากบริการของคุณไม่ดีจริงอย่างที่โฆษณาโอกาสการถูกคอมเมนต์เชิงเสีย ๆ หาย ๆ ก็มีสูงปริ๊ด เอาเป็นว่า พูดตามจริง ไม่โมเม ไม่หลอก จะทำให้ได้ใจมากกว่านะจ้ะ

และหากเจอคอมเมนต์ด้านลบก็ควรที่จะรับไว้พิจารณาและปรับปรุงแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นนะ “อย่าเถียงลูกค้า” เพราะถ้าคุณเถียงชนะ นั่นหมายความว่า คุณพ่ายแพ้ด้านบริการและพ่ายแพ้ทุกทาง เอาเป็นว่า ใจเย็น ๆ เนาะ

นับต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้นักการตลาดออนไลน์ หรือผู้ประกอบการทั้งหลายก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นะคะ หากมีกลยุทธ์อะไรใหม่ ๆ moveonblog.com จะรีบมูฟมาบอกทันทีเลยยยยย